บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) เคารพและให้ความสำคัญในสิทธิความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานนะผู้ถือหุ้น กรรมการ และตัวแทนของบุคคลดังกล่าว บริษัทในฐานะผู้จัดการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ และกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าบริษัทจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

คำนิยาม

“บริษัท” หมายถึง บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)

“ท่าน” หมายถึง ผู้ถือหุ้น กรรมการ ตัวแทนของบุคคลหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบฉันทะ ตัวแทน ผู้ติดตาม คู่สมรส บิดา มารดา พี่น้อง บุตร คู่สมรสของบุตร และบุคคลที่เกี่ยวโยงกันตามที่กฎหมายกำหนด

“การประมวลผล” หมายถึง การเก็บรวบรวม การใช้ การส่งต่อ โอน และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

1. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านโดยการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบเอกสาร หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือจากการสอบถาม หรือการขอให้ท่านส่งเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ/หรือวิธีอื่นใด ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่บริษัทได้รับจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น การจัดเก็บข้อมูลผู้ถือหุ้นจากนายทะเบียนหลักทรัพย์ หรือข้อมูลบัญชีธนาคารซึ่งท่านกำหนดให้เป็นบัญชีรับชำระเงินปันผล ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บจากท่านอาจแตกต่างกันแล้วแต่กรณี ตามลักษณะของกิจกรรมที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของท่าน

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวมรวบภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้อมูลส่วนบุคคลในประเภทอาจแตกต่างกัน และ/หรือลักษณะของกิจกรรมที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของท่านแล้วแต่กรณี ดังต่อไปนี้

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ ชื่อสกุล เลขประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง วันเดือนปีเกิด เพศ อายุ ลายมือชื่อ ข้อมูลการเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล ภาพถ่าย เป็นต้น
  2. ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่อาศัย เบอร์โทรศัพท์ อีเมล บัญชีการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Line Facebook หรือในลักษณะคล้ายคลึงกัน
  3. ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร จำนวนหุ้น เป็นต้น
  4. ข้อมูลการติดต่อ และ/หรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ กับบริษัท (Communication Data) เช่น ภาพนิ่ง ข้อความเสียง ภาพเคลื่อนไหว หรือทั้งภาพและ/หรือเสียงเมื่อท่านได้ติดต่อเข้าร่วมการประชุมประจำปี หรือเข้าร่วมกิจกรรมอื่นใดกับบริษัท
  5. ข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บัญชีผู้ใช้แอปพลิเคชัน ไลน์ไอดี อีเมล์ และ/หรือรูปแบบอื่นใดที่ใช้ติดต่อในลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น
  6. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ เช่น การแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ คำแนะนำต่าง ๆ ตลอดเวลาที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรม อาชีพ เป็นต้น

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว

ทั้งนี้ บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่าบริษัทไม่มีนโยบายเก็บข้อมูลซึ่งมีความอ่อนไหว เว้นแต่ ข้อมูลที่กฎหมายให้ความคุ้มครอง

  1. เพื่อป้องกัน ระงับเหตุแห่งชีวิต (Vital Interests) เช่น ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลการแพ้ยา ข้อมูลการรับวัคซีน เพื่อให้การช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน หรือควบคุมยับยั้งป้องกันโรคระบาด
  2. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) เช่น กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อมูลประวัติอาชญากรรม กฎหมายการฟอกเงิน และกฎหมายอื่นใดที่อาจเกี่ยวข้องตามอำนาจของรัฐ
  3. ในบางกรณีที่ ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวปรากฏในเอกสารประกอบการทำนิติกรรมหรือธุรกรรมใด ๆ ระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท ขอให้ท่านทำการนำข้อมูลดังกล่าวออกจากเอกสารหรือทำการใด ๆ เพื่อปกปิดข้อมูลข้างต้นก่อนส่งมอบเอกสารให้แก่บริษัท หากเป็นกรณีที่บริษัทไม่สามารถจัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวแก่ท่านได้ เนื่องด้วยปัญหาเชิงเทคนิค หรือปัญหาอื่นใด บริษัทจะทำการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น

ในกรณีที่ บริษัทจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดของท่าน บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านเป็นกรณีไป

2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ

บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ โดยจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง รวมทั้งจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานที่กำกับดูแล ข้อมูลที่มีการเปิดเผยสู่สาธารณะ

  1. กระบวนการสรรหา บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากข้อมูลที่มีการเปิดเผยสู่สาธารณะ หรือผู้ที่มีสิทธิเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมาย เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ รูปถ่าย อายุ ประวัติการศึกษา อาชีพ ประวัติการทำงาน การเป็นกรรมการหรือมีตำแหน่งในบริษัทหรือกิจการอื่น ๆ
  2. สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม เช่น การถือครอง ซื้อ ขาย หลักทรัพย์ของบริษัท การจ่ายค่าตอบแทนกรรมการ การจัดอบรม การจัดกิจกรรม สถานะการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรส บุตร และข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกันตามกฎหมาย ข้อมูลการเป็นกรรมการหรือมีตำแหน่งในบริษัทหรือกิจการอื่น ๆ การเข้าประชุมคณะกรรมการบริษัทหรือคณะกรรมการชุดย่อยหรือผู้ถือหุ้น ผลการปฏิบัติงานของกรรมการ และข้อมูลอื่นตามที่กฎหมายหรือหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีกำหนด

3. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (รวมเรียกว่า“วัตถุประสงค์ที่กำหนด”) และภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้

ลำดับที่ วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
1
เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ และระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร หรือกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
2
เพื่อการจ่ายชำระเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
3
เพื่อการจัดประชุม การเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นและการบริหารจัดการในการจัดประชุมดังกล่าว เช่น การลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม การบันทึกการลงมติ
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่งของหน่วยงาน องค์กรอิสระ หรือเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียก คำสั่งของศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ หน่วยงานราชการ และการรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หรือองค์กรอิสระ
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
4
เพื่อการแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์ที่จัดให้แก่ท่านตามที่บริษัทเห็นสมควร และใช้เป็นข้อมูลสำหรับกระบวนการคัดเลือกผู้มีสิทธิเข้าร่วมกิจกรรม
ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
5
เพื่อการบันทึกภาพ เสียง และ/หรือวิดีทัศน์ระหว่างการประชุม เพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่การประชุมผ่านเว็บไซต์ของบริษัท และช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ของบริษัท หรือเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับชมในภายหลัง หรือสำหรับการประชาสัมพันธ์เพื่อประโยชน์ของบริษัท หรือเพื่อประโยชน์ของผู้เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ หากท่านไม่ประสงค์จะถูกบันทึกภาพ หรือวีดีทัศน์ ท่านมีสิทธิที่จะแจ้งต่อบริษัทเพื่อปฏิเสธ หรือไม่เข้าร่วมขณะมีการบันทึกภาพ หรือวิดีทัศน์
ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6
เพื่อเป็นฐานข้อมูล และเพื่อดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์ใด ๆ ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ถือหุ้น เช่น สิทธิในการจองซื้อหุ้นบริษัทในกลุ่มที่เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก
ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
7
เพื่อเป็นฐานข้อมูลผู้มีส่วนได้เสียของบริษัท และ/หรือใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารความสัมพันธ์ หรือการติดต่อประสานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท
ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
8
เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติ หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การดำเนินคดีต่าง ๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย
ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
9
เพื่อการบริหารจัดการด้านสุขอนามัย การป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การควบคุมโรคติดต่อ
การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพบุคคล (Vital Interests)

ในกรณีที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น บริษัทฯ จะจัดให้ทำนโยบายหรือเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์พร้อมทั้งประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม บนหน้าเว็บไซต์ หรือการออกหนังสือชี้แจ้งไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างโดยท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ (บางกรณี)

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ ซึ่งบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคล หรือองค์กร ดังต่อไปนี้

  1. หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรมสรรพากร
  2. นายทะเบียนผู้ถือหุ้น นายทะเบียนหลักทรัพย์
  3. ธนาคารที่มีหน้าที่จ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหุ้น
  4. ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ หรือผู้รับมอบอำนาจผู้ถือหุ้น

5. การส่งต่อหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

ในกรณีที่บริษัท อาจมีการส่งต่อหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ ในรูปแบบการเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการที่อยู่ต่างประเทศ และอาจมีการประมวลผลข้อมูลโดยใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันสำเร็จรูปของผู้ให้บริการในต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าบริษัท ได้ส่งต่อหรือโอนไปยังประเทศปลายทาง หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ตามที่กฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด

6. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่ กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี) ซึ่งภายหลังจากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการลบ ทำลาย ข้อมูลดังกล่าว

กรณีที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม และเมื่อบริษัทดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้วอย่างไรก็ดี บริษัทจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้

7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและวิธีปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของบริษัทและนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

กรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องเลือกผู้ให้บริการจากภายนอกเพื่อดำเนินการแทน หรือการใช้บริการ รับฝากข้อมูล บริษัทจะทำการคัดเลือกผู้ให้บริการจากภายนอกที่มีมาตรฐานไม่ต่ำกว่ากฎหมายกำหนด และจัดให้มีการทำสัญญารักษาความลับกับบริษัท (Non-Disclosure Agreement)

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้โดยกรอกข้อมูลผ่าน “แบบฟอร์มการขอใช้สิทธิสำหรับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Right Request Form)” เป็นลายลักษณ์อักษรส่งคำขอผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนดใน ข้อ 9 ซึ่งสิทธิต่าง ๆ มีรายละเอียด ดังนี้

  1. สิทธิเพิกถอนความยินยอม ในกรณีที่บริษัท ขอความยินยอมจากท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัท ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความครอบครองของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่า การเพิกถอนความยินยอมไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้แล้วโดยชอบ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมาย หรือโดยสภาพ ไม่สามารถถอนความยินยอมได้ หรือมีสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ หรืออาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ได้
  2. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัท ทำสำเนา แก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคล ที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมาย หรือคำสั่งของศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  3. สิทธิขอโอนหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอโอนหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลท่านในรูปแบบที่อิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถกระทำได้
  4. สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านตามสิทธิตามกฎหมาย หรือตามคำสั่งศาล หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  5. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายกำหนด เช่น เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง หรือต่อสู้ข้อเรียกร้องสิทธิ หรือปฏิบัติตามกฎหมาย
  6. สิทธิขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ชั่วคราวตามที่กฎหมายกำหนด กรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน และบริษัทอาจประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเป็นบางกรณีเท่านั้น
  7. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ให้เป็นปัจจุบันไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  8. สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลผ่านแบบฟอร์ม “แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” ในกรณีที่บริษัทมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านโดยเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันที่เราได้รับคำร้องขอดังกล่าว

9. ช่องทางการติดต่อ

หากท่านมีคำถาม หรือข้อมูลมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับคำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัท หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียด ดังต่อไปนี้

รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท : บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)

ที่อยู่ : 34 ถนนกรุงเทพกรีทา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240

โทรศัพท์ : 02-295-4255

อีเมล : dpo.officer@sunvending.co.th

10. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

บริษัท อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) นี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง บริษัทจะแจ้งให้ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท หรือช่องทางที่เหมาะสมในอนาคต

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2567