บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) เคารพและให้ความสำคัญในสิทธิความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและผู้ฝึกงาน (“ท่าน”) และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราช บัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทจึงได้ออกประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับพนักงานและผู้ฝึกงาน (Privacy Notice) ฉบับนี้ เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าบริษัทจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

คำนิยาม

“บริษัท” หมายถึง บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)

“ท่าน” หมายถึง ผู้สมัครงาน พนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว พนักงานอัตราจ้าง ผู้สมัครเข้าฝึกงาน และ/หรือนักศึกษาฝึกงาน ที่เข้ามาทำงานหรือประสงค์จะเข้าฝึกงานให้กับบริษัท แล้วแต่กรณี

“การประมวลผล” หมายถึง การเก็บรวบรวม การใช้ การส่งต่อ โอน และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

1. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านหลายช่องทางซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบเอกสาร หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ดังนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัท โดยตรง: ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท โดยตรง เช่น การยื่นใบสมัครงานด้วยตนเอง การส่งอีเมล์สมัครงาน การสมัครงานผ่านเว็บไซต์ของบริษัท เป็นต้น
  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ: บริษัท อาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคบางอย่างเกี่ยวกับอุปกรณ์ กิจกรรมและรูปแบบการเข้าชม ข้อมูลประวัติการใช้งานเว็บไซต์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ของท่านอัตโนมัติโดยใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ประกาศเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้ (Cookies Notice)
  3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท ได้รับมาจากบุคคลภายนอก: บริษัท อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอกและ/หรือบุคคลอื่นใดที่เป็นผู้ควบคุม หรือประมวลผลข้อมูล ที่ได้รับสิทธิเปิดเผยให้แก่บริษัทได้ เช่น เว็บไซต์หางาน บริษัทตัวแทนจัดหางาน ข้อมูลจากบุคคลอ้างอิง เป็นต้น

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวมรวบภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ข้อมูลส่วนบุคคลในประเภทอาจแตกต่างกัน และ/หรือลักษณะของกิจกรรมที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของท่านแล้วแต่กรณี ดังต่อไปนี้

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ ชื่อสกุล ชื่อเล่น เพศ สัญชาติ วันเดือนปีเกิด อายุ สถานภาพสมรส เลขบัตรประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง เลขใบขับขี่ (สำหรับตำแหน่งงานที่ใช้ยานพาหนะในการปฏิบัติงาน) รูปถ่าย ลายมือชื่อ ข้อมูลการเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล เป็นต้น
  2. ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ผู้ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บัญชีการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Line Facebook หรือในลักษณะคล้ายคลึงกัน
  3. ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เงินเดือน รายได้ ภาษี กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น
  4. ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา เช่น ประวัติการศึกษา ชื่อสถาบัน คณะ สาขาวิชา ปีที่จบการศึกษา ผลการศึกษา การฝึกอบรม ความเชี่ยวชาญ ใบรับรองคุณสมบัติและผลงานต่าง ๆ เป็นต้น
  5. ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานก่อนหน้า เช่น ประวัติการทำงาน ประสบการณ์การทำงาน ตำแหน่งงาน อายุงาน เงินเดือน เอกสารรับรองการงาน ผลการประเมินการทำงาน เป็นต้น
  6. ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการสมัครงาน เช่น ประวัติส่วนตัว(Resume, Curriculum Vitae) ข้อมูลจากการทำแบบทดสอบ แบบประเมินผล สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบสำคัญการเกณฑ์ทหาร สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร สำเนาใบขับขี่ แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน หนังสือยินยอมให้สอบประวัติบุคคล รายงานผลการตรวจสอบประวัติบุคคล หนังสือค้ำประกันการทำงานและเอกสารที่มีชื่อผู้ค้ำประกันการทำงาน และ/หรือข้อมูลอื่นใดที่ท่านได้มอบให้แก่บริษัท
  7. ข้อมูลเกี่ยวกับสถิติทางทะเบียน เช่น วันที่เริ่มงาน วันครบกำหนดทดลองงาน วันและเวลาที่เข้าทำงาน การลงเวลาเข้าและออกงาน จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน จำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลา วันหยุดพักผ่อนประจำปี วันลา แบบแจ้งการลา รายละเอียดการลา รวมถึงสาเหตุการลา
  8. ข้อมูลระบุตัวตนของบุคคลในครอบครัว (บิดา มารดา คู่สมรสบุตร บุตรบุญธรรม พี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน) ได้แก่ ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วัน เดือน ปีเกิด สถานที่เกิด เพศ อายุ ลายมือชื่อ ภาพถ่าย สัญชาติ เป็นต้น
  9. ข้อมูลในระหว่างปฏิบัติงาน เช่น รหัสพนักงาน ตำแหน่ง แผนก สังกัด การประเมินผลการปฏิบัติงาน พฤติกรรมในการทำงาน ผลงานและ/หรือรางวัลที่ได้รับ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ ข้อมูลการฝึกอบรม ข้อมูลการลงโทษทางวินัย ข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือโอนย้ายบุคลากร ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัท เป้าหมายการทำงาน ใบลาออกจาก และเหตุผลที่ลาออก สาเหตุการพ้นสภาพการเป็นพนักงาน
  10. ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัท ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน รวมถึงข้อมูลการสื่อสาร และการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และอีเมล อุปกรณ์สื่อสารของบริษัทในระหว่างปฏิบัติงาน การเข้าใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน
  11. ข้อมูลอื่นๆ เช่น เสียง ภาพนิ่ง และ/หรือภาพเคลื่อนไหว ที่ได้จากกล้องวงจรปิด รวมถึง ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่บริษัทจัดขึ้น

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว

ทั้งนี้ บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่าบริษัทไม่มีนโยบายเก็บข้อมูลซึ่งมีความอ่อนไหว เว้นแต่ ข้อมูลที่กฎหมายให้ความคุ้มครอง ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน แลไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายได้ บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน ทั้งนี้ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวอย่างระมัดระวัง เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่บริษัทแจ้งไว้ ในกรณีดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลสุขภาพ เช่น โรคประจำตัว ตาบอดสี ผลการตรวจร่างกาย หมู่โลหิต ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษาพยาบาล เพื่อการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของพนักงานตามสิทธิของพนักงาน
  2. ข้อมูลชีวภาพ (biometric data) เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ เพื่อใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนของท่าน สำหรับบางตำแหน่งงาน
  3. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม ซึ่งจะเก็บจากการเอกสารที่ท่านนำมาแสดง หรือหรือท่านยินยอมให้ตรวจสอบจากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติงาน เฉพาะบางตำแหน่งที่บริษัทกำหนด
  4. ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา เพื่อประกอบการจัดกิจกรรม สวัสดิการ และสิ่งอำนวยความสะดวกหมาะสมกับพนักงาน รวมถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านการดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน

3. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (รวมเรียกว่า“วัตถุประสงค์ที่กำหนด”) และภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้

ลำดับที่ วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
1
เพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านในการสมัครงานกับบริษัท เช่น การคัดเลือก การจัดทำสัญญา การตรวจสอบคุณสมบัติ การดำเนินการตามกระบวนการสรรหารวมถึงการปฏิบัติตามสัญญา การจ่ายค่าตอบแทน สวัสดิการ หรือการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในการปฏิบัติตามสัญญา
การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
2
การบริหารจัดการเรื่องเงินเดือน ค่าตอบแทน ค่าจ้าง โบนัส ค่าล่วงเวลา ค่าที่พัก ค่าเดินทาง กองทุนสำรองเลี้ยงชีพรวมถึงผลประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับท่าน
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
3
เพื่อขึ้นทะเบียนพนักงาน การจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ สำนักงาน เครื่องคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต อีเมล username & password สำหรับการเข้าระบบต่าง ๆ ที่จำเป็น และอื่นๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงานของท่านตามตำแหน่งงาน
การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
4
การเก็บบันทึกข้อมูลเกี่ยวโรคประจำตัว ผลการตรวจสุขภาพ โรคติดต่อ และการตรวจสุขภาพก่อนการทำงาน ตามระเบียบบริษัท หรือตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อการคุ้มครองแรงงาน การประเมินความสามารถในการทำงาน รวมถึงและการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าให้กับโรงพยาบาลคู่สัญญา รับผลการตรวจจากโรงพยาบาลคู่สัญญา เพื่อจัดทำทะเบียน การประกันสังคม สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของพนักงานตามสิทธิของพนักงาน และเพื่อการบริหารจัดการด้านประกันชีวิต และประกันภัยกลุ่ม ตามระเบียบบริษัท
การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
การให้ความยินยอม (Consent)
5
การเก็บข้อมูลชีวภาพ (Biometrics) ของพนักงาน เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ เพื่อในการผ่านเข้า หรือออกห้องปฏิบัติงานที่มีความปลอดภัยสูง บันทึกการเข้า-ออกสถานปฏิบัติงาน และ/หรือเพื่อยืนยันตัวตนของท่าน
การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6
การบันทึก ผลการประเมินงาน รวมถึงการบันทึกผลการทำงาน ประวัติทางการเงิน ประวัติทางคดี เพื่อพิจารณาปรับตำแหน่ง ปรับเงินเดือน และพิจารณาเรื่องการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษ หรือโบนัส
การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
7
การถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว การถ่ายภาพพิธีการ ภาพรวมบรรยากาศ งานเลี้ยงปีใหม่ งานสังสรรค์ งานประชุม อบรม สัมมนา การจัดงานท่องเที่ยวประจำปี กิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น
การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
8
การบริหารจัดการด้านวันหยุด วันลา การขาดงาน และรายละเอียดการเข้าร่วมกิจกรรม
การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
9
เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน หรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน ผลการตรวจและมาตรการป้องกันและการควบคุมโรคติดต่อ การบันทึกอุณหภูมิ และประวัติการเดินทางของท่าน
การป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต (Vital Interest)
10
การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)

ในกรณีที่ บริษัท จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ข้างต้น ในการปฏิบัติตามสัญญา หรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท บริษัทอาจไม่สามารถพิจารณาเข้าทำธุรกรรมภายใต้สัญญา หรือไม่สามารถบริหารจัดการตามสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี)

นอกจากนี้ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลของบุคคลอื่นแก่บริษัท ท่านจะต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และ/หรือดำเนินการขอความยินยอม (หากจำเป็น) เว้นแต่จะมีกฎหมายระบุข้อยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม

ในกรณีที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น บริษัทฯ จะจัดให้ทำนโยบายหรือเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์พร้อมทั้งประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม บนหน้าเว็บไซต์ หรือการออกหนังสือชี้แจ้งไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างโดยท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ (บางกรณี)

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่หน่วยงานและบุคคลดังต่อไปนี้

  1. หน่วยงานภายใน อาทิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้บริหาร ผู้บังคับบัญชา ฝ่ายบัญชีและการเงิน ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ และ/หรือบุคคลหรือหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ที่จำเป็นตามความเหมาะสมและวัตถุประสงค์ ที่กำหนดไว้เท่านั้น
  2. หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย อาทิ สำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมบังคับคดี กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ธนาคาร หรือหน่วยงานที่ขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด และศาล
  3. หน่วยงานอื่น อาทิ นายจ้างใหม่ สถาบันฝึกอบรมภายนอก บริษัทประกัน (สำหรับสวัสดิการของบริษัท) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ผู้ตรวจสอบภายนอก ลูกค้าหรือคู่ค้า หรือหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ในกรณีที่บริษัท เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัท จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ในกรณีที่บริษัท ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัท จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าบริษัท ได้ส่งหรือโอนไปยังประเทศปลายทาง องค์กรระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ในบางกรณี บริษัทอาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

5. การส่งต่อหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

ในกรณีที่บริษัท อาจมีการส่งต่อหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ ในรูปแบบการเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการที่อยู่ต่างประเทศ และอาจมีการประมวลผลข้อมูลโดยใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันสำเร็จรูปของผู้ให้บริการในต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าบริษัท ได้ส่งต่อหรือโอนไปยังประเทศปลายทาง หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ตามที่กฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด

6. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์หรือตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดดังต่อไปนี้ และภายหลังจากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการลบ ทำลาย ข้อมูลดังกล่าว

  1. ข้อมูลผู้สมัครงาน ผู้สมัครงานที่ไม่ผ่านการคัดเลือกบริษัทจะจัดเก็บไว้เป็นระยะเวลา 1 ปีหลังจากการพิจารณาคัดเลือกเสร็จสิ้น เพื่อที่บริษัทจะสามารถติดต่อท่านในกรณีที่มีตำแหน่งงานใด ๆ ในอนาคตที่อาจเหมาะสมกับท่าน
  2. ข้อมูลพนักงานและบุคลากร บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาของสัญญาจ้างแรงงาน และจัดเก็บต่อเป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากวันที่พ้นสภาพการเป็นพนักงานหรือบุคลากรของบริษัท หรือตามระยะเวลาที่กฎหมายอื่นกำหนด เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบกรณีเกิดข้อพิพาทซึ่งอยู่ภายในอายุความตามกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็น หรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและวิธีปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของบริษัทและนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

กรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องเลือกผู้ให้บริการจากภายนอกเพื่อดำเนินการแทน หรือการใช้บริการ รับฝากข้อมูล บริษัทจะทำการคัดเลือกผู้ให้บริการจากภายนอกที่มีมาตรฐานไม่ต่ำกว่ากฎหมายกำหนด และจัดให้มีการทำสัญญารักษาความลับกับบริษัท (Non-Disclosure Agreement)

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้โดยกรอกข้อมูลผ่าน “แบบฟอร์มการขอใช้สิทธิสำหรับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Right Request Form)” เป็นลายลักษณ์อักษรส่งคำขอผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนดใน ข้อ 9 ซึ่งสิทธิต่าง ๆ มีรายละเอียด ดังนี้

  1. สิทธิเพิกถอนความยินยอม ในกรณีที่บริษัท ขอความยินยอมจากท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัท ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความครอบครองของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่า การเพิกถอนความยินยอมไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้แล้วโดยชอบ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมาย หรือโดยสภาพ ไม่สามารถถอนความยินยอมได้ หรือมีสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ หรืออาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ได้
  2. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัท ทำสำเนา แก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคล ที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมาย หรือคำสั่งของศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  3. สิทธิขอโอนหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอโอนหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลท่านในรูปแบบที่อิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถกระทำได้
  4. สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านตามสิทธิตามกฎหมาย หรือตามคำสั่งศาล หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  5. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายกำหนด เช่น เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง หรือต่อสู้ข้อเรียกร้องสิทธิ หรือปฏิบัติตามกฎหมาย
  6. สิทธิขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ชั่วคราวตามที่กฎหมายกำหนด กรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน และบริษัทอาจประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเป็นบางกรณีเท่านั้น
  7. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ให้เป็นปัจจุบันไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  8. สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลผ่านแบบฟอร์ม “แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” ในกรณีที่บริษัทมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านโดยเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันที่เราได้รับคำร้องขอดังกล่าว

9. วิธีการติดต่อ

หากท่านมีคำถาม หรือข้อมูลมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับคำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัท หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียด ดังต่อไปนี้

รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท : บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)

ที่อยู่ : 34 ถนนกรุงเทพกรีทา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240

โทรศัพท์ : 02-295-4255

อีเมล : dpo.officer@sunvending.co.th

10. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

บริษัท อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) นี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง บริษัทจะแจ้งให้ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท หรือช่องทางที่เหมาะสมในอนาคต

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2567